Aston Martin DBS 770 Ultimate เครื่องสันดาป V12 รุ่นสุดท้าย!! แรงสุดเท่าที่เคยมีมา...

ปีที่แล้วน้องเล็ก Vantage อำลาเครื่อง V12 ด้วยรุ่น V12 Vantage มาปี 2023 ถึงเวลาของรุ่นใหญ่ DBS ที่ต้องอำลาเครื่อง V12 กันบ้างแล้ว ด้วย DBS 770 Ultimate 

DBS 770 Ultimate รุ่นสูงสุดส่งท้ายโมเดล DBS รูปลักษณ์ภายนอกอัพเกรดขึ้นไปจาก DBS ปกติ กันชนหน้าติดสปลิตเตอร์ใหม่ขนาบรวมช่องระบายอากาศออกใหม่สองช่อง ฝากระโปรงหน้าดีไซน์ช่องลมใหม่เป็นเว้าลงไปขนาดใหญ่ บวกกับช่องบานเกล็ดเหนือซุ้มล้อหน้า สิ่งเหล่านี้ช่วยจัดเรียงอากาศได้ดีขึ้นรวมถึงการระบายความร้อน ดิฟฟิวเวอร์ท้ายก็ปรับปรุงให้กว้างเต็มพื้นที่มากขึ้น ล้อมีให้เลือกลายเดียวเป็นลายเฉพาะรุ่น Ultimate ขอบ 21 นิ้ว เลือกได้ 3 สี เงิน Satin Silver, ดำ Satin Black และ ทูโทน Satin Black Diamond Turned เบรกคาร์บอน-เซรามิค  จานหน้าขนาด 410 มม. และจานหลังขนาด 360 มม. นอกจากนี้พวงมาลัยและช่วงล่าง Adaptive Damping System (ADS) ก็ถูกปรับปรุงให้ตอบสนองผู้ขับได้เร้าใจขึ้น

ห้องโดยสารโดยรวมยังเหมือนเดิม แต่จะเปลี่ยนแปลงพวกลวดลายงานตัดเย็บบริเวณแผงข้างประตู เบาะนั่ง และพนักวางแขนกลางพร้อมสายรัดมีตรา DBS 770 Ultimate มีเบาะคาร์บอนไฟเบอร์ Performance Seat ให้เลือกใส่ได้ (DBS ปกติไม่มี) และกาบบันไดยังโชว์ความ Limited ระบุว่าผลิตเป็นคันที่เท่าไหร่

เครื่องยนต์เป็นแบบ V12 ขนาด 5.2 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่มีการจูนเพิ่มเติม เพิ่มม้าจาก DBS ปกติ 55 ตัว กลายเป็น 770 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 900 นิวตันเมตร ที่ 1,800-5,000 รอบ/นาที เร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.4 วินาที กับท๊อปสปีด 340 กม./ชม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด จาก ZF และเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปแบบกลไก (LSD) ที่ติดตั้งอยู่ท้ายรถ ตัวเกียร์ยังถูกปรับเทียบใหม่ให้ตอบสนองเร็วขึ้น

DBS 770 Ultimate จะผลิตเพียง 499 คัน เท่านั้น แบ่งเป็นเวอร์ชั่น Coupe 300 คัน และเปิดประทุน Volante 199 คัน กำหนดการส่งมอบจะเริ่มในไตรมาสที่ 3 ปี 2023

บทความโดย : Team Admin Bangkoksupercar.com
ข้อมูล : Aston Martin