ขุมพลัง V8 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ก็มีการอัพเกรดด้วยการติดตั้งกล่อง Novitec N-Tronic ซึ่งมีการปรับเทียบการฉีดน้ำมัน การควบคุมแรงดันบูสต์ การจุดระเบิด และอัพเกรดระบบไอเสียทำจากสแตนเลส ส่งผลให้ได้ม้าเพิ่ม 116 ตัว เป็น 782 แรงม้า
ทั้งโครงแซสซีและเปลือกตัวถังด้านนอกทำจากคาร์บอนคอมโพสิต แพ็คเกจแอโรไดนามิกขนาดใหญ่รอบคัน ปีกหน้า ปีกหลัง และปีกใต้รถ สามารถสร้างแรงกดได้สูงถึง 4,000 กิโลกรัม รูปลักษณ์ราวกับรถแบทแมนสมัย Michael Keaton
McLaren GTS ถือเป็นการปรับชื่อใหม่เพิ่มความสด รูปลักษณ์ภายนอกแทบไม่ต่างจาก GT มีการปรับปรุงเล็กน้อยที่กันชนหน้าบริเวณช่องดักอากาศด้านข้างใหญ่ขึ้น ช่องสกู๊ปเหนือซุ้มล้อหลังดีไซน์ใหม่ยกนูนสูงดูดุขึ้น (GT จะเรียบ) มีสีตัวถังใหม่ๆ เช่น เขียว Mantis Green, น้ำเงิน Tanzanite Blue, ขาว Ice White และสีที่มีเฉพาะ GTS เทา Lava Grey เมทัลลิกที่ซ่อนประกายสีแดงไว้ ล้อก็เพิ่มลายใหม่ GTS 'Turbine' ลายนี้แอบคล้ายล้อ Speedtail
ยิ่งตอกย้ำในฝีมือที่ไม่ธรรมดาในวงการแข่งรถ Donohue พร้อมนำประสบการณ์ความรู้ที่อัดแน่นมาสู่ Hennessy โดยจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับรองประธานฝ่ายวิศวกรรม Brian Jones และหัวหน้าวิศวกร John 'Heinrocket' Heinricy
Bugatti สองคันนี้มีจุดเริ่มต้นจากคู่รักสามีภรรยา ซึ่งครอบครองบูกัตติหลายคัน แต่ยังไม่เคยมีรถแบบใหม่ป้ายแดง ทั้งคู่ตัดสินใจซื้อ Chiron Super Sport ซึ่งสั่งทำพิเศษโดยแผนก Sur Mesure เป็นงานทำสีด้วยมือแรงบันดาลใจจาก Veyron L'Or Blanc ตัวพิเศษที่เปิดตัวเมื่อปี 2011 ลวดลายนี้เรียกว่า 'Vagues de Lumière' รถของสามีถูกส่งมอบก่อนมาในชื่อรุ่น Coup de Foudre
ห้องโดยสารมีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมเข้าไป เช่น แผงควบคุมพิเศษเหนือช่องแอร์กลาง วิทยุสื่อสารฝั่งผู้โดยสารตอนหน้า ค้อนทุบกระจกที่แผงข้างประตู ช่องสัมภาระท้ายรถมีทั้งกล่องเก็บอาวุธหุ้มเกราะ แผงหน้าจอพับแสดงข้อความต่างๆ และช่องพิเศษเก็บอุปกรณ์บริการ เครื่องกระตุ้นหัวใจสำหรับปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ตัวรถจะมาในสีเขียวเมทัลลิก Scarab Green ที่ดูหรูหราเฉดเดียวกับของ Bentley Mulliner ชิ้นส่วนอื่นโดยรอบจะเน้นเป็นงานคาร์บอนไฟเบอร์ แผงช่องลมหน้ารถดีไซน์เหมือนกระจังหน้า Batur เบาะนั่งหุ้มด้วย Alcantara สีดำเจาะรูเป็นลวดลายเผยให้เห็นผ้าหุ้มสีแดงอีกชั้นและปักโลโก้ Bentley ขนาดใหญ่ ล้อฟอร์จเป็นสี Dark Titanium
ตัวถังภายนอกเป็นงานสีที่วาดด้วยมือไล่ตั้งแต่สีม่วง Viola Pasifae ไปจนสีดำ Nero Helene พร้อมรายละเอียดลายเส้นพู่กันของสีที่โทนอุ่นและเย็น กระบวนการนี้ต้องพัฒนาและมีการทดสอบถึง 76 ชั่วโมง ส่งผลให้ใช้เวลาในการดำเนินการ 435 ชั่วโมง เหนือฝากระโปรงหน้ายังใส่โลโก้ครบรอบ 60 ปี
หน้าตามาแบบจัดเต็มเหมือนกับรถแข่งขนานแท้อย่าง Audi R8 LMS GT2 แต่สามารถวิ่งถนนทั่วไปได้อย่างถูกกฎหมาย มีการปรับปรุงด้านเทคนิคหลายจุด เช่น การจัดการระบายความร้อน ซอฟต์แวร์ระบบวินิจฉัยรถยนต์ที่มีความซับซ้อนสูง ระบบท่อไอเสียเป็นตามข้อกำหนดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ KBA
Pagani ทุกคันล้วนใช้เครื่องยนต์ V12 ของ Mercedes-AMG ที่ประกอบด้วยมือด้วยคนเพียงหนึ่งคน ซึ่งต้องใช้ทักษะและความทุ่มเทอย่างมาก Pagani ได้โพสต์ผ่าน Instragram แสดงความเคารพต่อความร่วมมืออันยาวนานกับ AMG ซึ่งมีความสำคัญต่อความสำเร็จนับตั้งแต่เริ่มต้นประวัติศาสตร์ตั้งแต่ Zonda รุ่นแรก โดยอ้างอิงคำพูดของชาวอิตาลี: “Squadra che vince non si cambia” ซึ่งแปลว่า “อย่าเปลี่ยนทีมที่ชนะ”
สำหรับงานตกแต่งในแต่ละห้องจะได้รับการคัดสรรเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เป็นอย่างดี ด้วยความร่วมมือจาก Luxury Living Group ผู้ออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ Bugatti รวมถึง Versace, Dolce&Gabbana, Trussardi, Bentley Motors และแบรนด์ของตัวเอง Luxence Luxury Living นอกจากนี้ยังร่วมมือกับ TIDAL Audio
Rolls-Royce Silver Dawn เปิดประทุน ทะเบียน งล 12 กรุงเทพมหานคร ปี 1951 ยุคสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มากับตัวถังเหล็กสีน้ำเงินเข้ม ด้านหน้าเอกลักษณ์ด้วยกระจังหน้า Pantheon นางฟ้า Spirit of Ecstasy ผลงานของ Charles Sykes เป็นดีไซน์เก่าที่ไม่พบเห็นในสมัยนี้ด้วยท่านั่งขุกเข่าบนฐานที่สูงใหญ่กว่าปกติ ภายในคันนี้เป็นพวงมาลัยขวา แผงคอนโซลหน้าตกแต่งด้วยไม้ทั้งหมด
750S ธีม 3-7-59 สร้างมาเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะ 'Triple Crown' ของ McLaren '3' จาก Indy 500 ปี 1974, '7' จาก Monaco Grand Prix ปี 1984 และ '59' จาก Le Mans ปี 1995 ผลงานนี้จัดการโดยแผนก MSO ใช้เวลาในการทำสีกว่า 1,200 ชั่วโมง ผสานเฉดสีมากกว่า 20 เฉด เป็นศิลปะที่บอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จที่ผ่านมา
Imola เคยเปิดตัวเวอร์ชั่น Coupe ไปในปี 2020 เมื่อเทียบกับ Imola Roadster มันมีจุดที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นแตกต่างกันอยู่ ช่องลมซ้ายขวาของกันชนหน้าถูกขยายขนาดเพื่อการระบายความร้อนที่ดีขึ้น ช่องลมข้างล้อก็ปรับปรุงใหม่ ช่องบานเกล็ดเหนือซุ้มล้อหน้าช่วยคุมสมดุลอากาศ สกู๊ปด้านบนส่งอากาศเข้าเครื่อง V12 โดยตรง
พวงมาลัยสไตล์รถแข่งดีไซน์ตัว X สามารถถอดได้ มีปุ่มมาให้ 8 ปุ่ม จัดเรียงให้ควบคุมง่าย หน้าจอแสดงข้อมูลเรียลไทม์ที่แม่นยำละเอียดและอ่านเข้าใจง่าย คอนโซลกลางรวมปุ่มพื้นฐานต่างๆ และ 2 ปุ่มสีแดงฉุกเฉินขนาดใหญ่ Stop และ Fire extinguisher และยังไม่ละทิ้งความสบายด้วยช่องแอร์ 4 ท่อ สุดโหดดีไซน์เหมือนท่อไอเสีย
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ท่ามกลางผู้ชมสื่อมวลชนยานยนต์ชั้นนำของโลก SF90 XX Stradale ได้จัดเต็มบนสนาม Fiorano Circuit มีการจับรอบเวลารับรองโดยบริษัทผู้เชี่ยวชาญ มันสร้างสถิติใหม่สำหรับรถถนนด้วยเวลา 1:17.309 นาที เร็วกว่า SF90 Stradale ที่ติดตั้งแพ็คเกจ Assetto Fiorano 1.4 วินาที
ในรุ่นนี้ยังมีการปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ดีขึ้นจาก STO ปกติ กันชนหน้ามีการเสริมคานาร์ด ฝากระโปรงตรงช่องลมติดตั้งสะบัดคาร์บอนไฟเบอร์แบบใหม่สองชิ้น และปีกท้ายมีการปรับขึ้น 3 องศาจากรุ่นปกติ ส่งผลให้แรงกดมากขึ้นทั้งหน้าและหลังรถ การยึดเกาะก็สูงขึ้นด้วยชุดโช้คอัพดึงจากรถแข่งปรับได้สี่ทิศทาง
ดีไซน์ตัวกล่องยังออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อให้เป็นภาระกับตัวรถน้อยที่สุด แรงต้านอากาศเพิ่มขึ้นเพียง 11% และเมื่อติดตั้งหลังคาเข้ากับรถ ตรงจุดยึดหลังคาจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับเพื่อล๊อคความเร็วสูงสุดของ Gemera ไว้ที่ 300 กม./ชม.
MC20 Notte รุ่นพิเศษปรับแต่งโดยแผนก Maserati Fuoriserie ร่วมกับแชมป์โลก GT1 Andrea Bertolini เป็นการเฉลิมฉลองมรดกการแข่งรถที่ได้รับการเคารพและประสบความสำเร็จของ Maserati ได้รับแรงบันดาลใจจากเสน่ห์ของท้องฟ้าอันมืดมิด ตามชื่อ Notte ในภาษาอิตาลี แปลว่า ค่ำคืน
เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.75 ลิตร เทอร์โบคู่ ใน Black badge ยังมีการติดตั้งกล่อง SPOFEC N-TRONIC เสียบตรงเข้ากับเครื่องยนต์เดิมแบบ Plug & Play ทำให้ได้ม้าเพิ่มจากเดิม 107 ตัว เป็น 707 แรงม้า
Nissan Hyper Force เป็นผลงานที่ร่วมมือกับทาง Polyphony Digital Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Sony Interactive Entertainment หรือที่เรารู้จักกันคือผู้สร้างเกม Gran Turismo นั่นเอง Hyper Force มากับขุมพลังไฟฟ้าล้วน แบตเตอรี่โซลิดสเตตทั้งหมดสามารถรีดกำลังได้ถึง 1,000 กิโลวัตต์ (1,341 แรงม้า)
แพ็คเกจฉลองครบรอบ 60 ปี ทำมาเฉพาะ McLaren GT, Artura และ 750S ใหม่ล่าสุด ตัวถังภายนอกจะมีสีใหม่ให้เลือก 3 สี แรงบันดาลใจจากความสำเร็จของ Triple Crown เริ่มจากสีส้ม Indy Orange ที่ทำให้นึกถึงรถแข่ง M16D ที่รับชัยชนะ Indy 500 ปี 1974, สีขาว Monaco White
Mansory เปิดตัวชุดแต่ง Softkit รองรับทั้ง MC20 และ MC20 Cielo เป็นการติดตั้งพาร์ทชิ้นส่วนเข้าไป ไม่มีการแปลงยุ่งเกี่ยวตัวถังเดิม ชิ้นส่วนรอบคันทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมดมอบดีไซน์ที่อลังการตามสไตล์ Mansory
ชุดแต่งนี้ไม่ได้ให้แค่ความหล่อ แต่ยังให้ประสิทธิภาพด้านแอโรไดนามิคเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 123% สร้างแรงกดได้ 90 กก. ที 160 กม./ชม., 230 กก. ที่ 257 กม./ชม. และ 360 กก. ที่ 321 กม./ชม.