2771 จำนวนผู้เข้าชม |
เมื่อ McLaren นั้นมีการแยกย่อยระดับซีรี่ย์ ซึ่งมีการแยกออกมาด้วยกัน 3 ระดับ คือ Sport Series, Super Series และ Ultimate Series โดยวันนี้เราจะแนะนำ หนึ่งใน Ultimate Series ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุด อย่าง McLaren Speedtail
McLaren Speedtail งานดีไซน์สไตล์ Hyper GT ขนาดใหญ่ ใช้แซสซีส์แบบคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา Monocage จาก McLaren P1 ช่วงล่างเป็นแบบอลูมิเนียม น้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 1,430 กิโลกรัม ด้านหน้ารถออกแบบให้ลู่ลม ตามหลักอากาศพลศาสตร์มากที่สุด ช่องลมทุกจุดถูกคำนวณมาอย่างละเอียด ด้านข้างตัวรถมากับบานประตูปีกผีเสื้อ ออกแบบให้มีช่องอากาศเข้าไประบายความร้อนเครื่องยนต์ได้อย่างกลมกลืน มีกล้องจับภาพ สำหรับใช้แทนกระจกมองข้าง มีล้อหน้าแบบคาร์บอนไฟเบอร์ขนาด 20 นิ้ว ติดตั้งแผ่นอัลลอย ช่วยลดความปั่นป่วนของกระแสลมบริเวณล้อ โดยแผ่นนี้จะอยู่นิ่งไม่หมุนตามล้อเวลารถวิ่ง ด้านท้ายมีปีกท้ายเรียกว่า Ailerons เป็นคาร์บอนไฟเบอร์แบบยืดหยุ่นได้ กลืนไปกับผิวตัวถังรถ สามารถยกตัวช่วยเพิ่มแรงกดได้อัตโนมัติ ทำงานแยกซ้าย-ชวา อิสระ
McLaren Speedtail มีห้องโดยสารรูปแบบ 3 ที่นั่ง ซึ่งแบบเดียวกับรถระดับตำนานอย่าง McLaren F1 คนขับอยู่ศูนย์กลาง บนเบาะนั่งแบบคาร์บอนไฟเบอร์บางเบาพิเศษ แผงหน้าปัดมาในสไตล์เรียบหรู เกือบทั้งหมดจะใช้ระบบทัชสกรีน จอ HD ตรงกลางแสดงความเร็ว และโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ Comfort, Sport, Velocity จอซ้ายมือ ควบคุมระบบปรับอากาศ ระบบนำทาง ส่วนจอขวา คุมระบบความบันเทิงต่างๆ พร้อมติดตั้งจอ 2 ฝั่ง สำหรับกล้องมองข้าง แทนที่กระจกแบบเดิม มองขึ้นไปบนเพดานจะเป็นที่อยู่ของปุ่มสาร์ตเครื่องยนค์ ปุ่มเกียร์ สวิทเปิด-ปิด ประตู และกระจก แบบไฟฟ้า ให้ความรู้สึกเหมือน Cockpit บนเครื่องบิน
ด้านความแรงของเครื่องยนต์ของ McLaren Speedtail เครื่องยนต์ใช้แบบ V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า eMOTOR รีดกำลังได้ 1,070 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-300 ในเวลา 13 วินาที เท่านั้น ท๊อปสปีดสูงถึง 403 กม./ชม. ถือว่าแรงที่สุดเท่าที่ McLaren เคยทำมาเลยทีเดียว
สำหรับลูกค้าที่สนใจ McLaren Speedtail นั้นสามารถเลือกสีสัน วัสดุตกแต่งต่างๆ ได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะทองคำแท้ หรือ แพทตินัม แทนที่โลโก้แบบเดิม แผนก MSO จัดให้คุณได้หมด Speedtail ผลิตมาจำนวน 106 คัน ขายเกลี้ยงเรียบร้อย ด้วยราคากว่า 2.2 ล้านเหรียญ ตีเป็นเงินไทย 68 ล้านบาท ไม่รวมภาษี พร้อมส่งมอบกันในต้นปี 2020
บทความโดย : Bangkoksupercar.com
ข้อมูล : McLaren