1433 จำนวนผู้เข้าชม |
ในงาน Detroit Auto Show ปี 2016 มีการเปิดผ้าคลุมรถรุ่นพิเศษของฝั่งอเมริกันจากค่าย VLF แน่นอนว่าหลายคนคงยังไม่รู้จักชื่อนี้ ย้อนไปเริ่มที่ปี 2012 คือจุดเริ่มต้นก่อตั้งในชื่อ VLF Automotive โดยบอสใหญ่ของ GM Bob Lutz และอดีตผู้บริหาร Boeing Gilbert Villarreal ถ้ายังจำได้ก่อนหน้านั้นมีรถ 4 ประตูในชื่อ Destino V8 รูปร่างคล้ายกับ Fisker Karma มันถูกสร้างโดย VLF เช่นกัน หลังจากนั้นจึงมีการชักชวนทาง Henrik Fisker ให้มาร่วมออกแบบรถ จนกลายมาเป็นชื่อ VLF นั่นเอง โดยผลงานซุปเปอร์คาร์ของพวกเขาใช้นามว่า Force 1 V10
Force 1 V10 นั้นใช้พื้นฐานมาจาก Dodge Viper แต่ถูกนำมาออกแบบเส้นสายใหม่ทั้งหมดโดย Henrik Fisker เล่นเอาแบบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ตัวถังใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 1,538 กิโลกรัม เท่านั้น ด้านหน้ารถดีไซน์แปลกตาดุดันเสริมช่องรับลมระบายความร้อนในหลายจุด ชุดโคมไฟหน้าดูมีรายละเอียด ด้านข้างเฉียบคมพร้อมปลายท่อไอเสียออกข้างทั้ง 2 ฝั่ง แบบ Viper ดั้งเดิม ชุดล้ออัลลอยมวลเบาให้มาขนาด 21 นิ้ว ทั้งหน้า-หลัง ระบบเบรกจาก Brembo พร้อมด้วยยางสมรรถนะสูง Pirelli P Zero ช่วยการควบคุมได้มั่นใจมากขึ้น บั้นท้ายออกแบบได้ทันสมัยด้วยไฟท้ายแบบบางเฉียบ Ultra Thin Ventilated (UTV) มี Diffuser ท้ายจัดเรียงอากาศขนาดใหญ่ เสริมด้วยสปอยเลอร์ด้านบนกระจกบานหลังและด้านท้ายสามารถสร้างแรงกดได้มากพอตัวทีเดียว
ห้องโดยสารแบบเดียวกับที่เห็นใน Viper แต่ได้มีการยกระดับความหรูหราสะดวกสบายมากขึ้น โทนสีสั่งได้ตามลูกค้า วัสดุใช้หนังแท้คุณภาพสูงสัมผัสนุ่มนวลรายล้อม Alcantara ช่วยให้รถคันนี้ดูพิเศษมาก พร้อมยังเสริมช่องวางขวดไวน์หรือแชมเปญขนาดใหญ่ 2 ขวด บริเวณหลังพนักพิงกลาง, มี WIFI hot spot, ระบบนำทาง, เครื่องเสียงระบบ HIFI, ช่องวางสมาร์ทโฟนบริเวณคอนโซลกลาง และช่องเสียบ USB มีมาให้ครบ
Force 1 V10 ใช้เครื่องยนต์แบบ V10 ขนาด 8.4 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ จาก Viper พร้อมพละกำลังมหาศาล 745 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 928 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที ทำอัตราเร่ง 0-100 ในเวลา 3 วินาที กับท๊อปสปีดถึง 350 กม./ชม. ด้านระบบส่งให้เกียร์ธรรมดา 6 สปีด มาเป็นมาตรฐาน หรือจะสั่งออฟชั่นเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Paddle Shift ก็แล้วแต่ชอบ
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคลาสสิคอเมริกันสุดพิเศษเลยก็ว่าได้สำหรับ VLF Force 1 V10 ด้วยสนนราคาที่ $268,500 ซึ่งสูงกว่า Viper ACR อยู่พอสมควร และมันถูกผลิตมาเพียงแค่ 50 คันเท่านั้น
บทความโดย : Team Admin Bangkoksupercar.com
ข้อมูล : VLF Automotive