1467 จำนวนผู้เข้าชม |
Bugatti Chiron ถูกผลิตขึ้นทั้งหมด 500 คัน ตอนนี้มันมาถึงปลายทางกับคันที่ 400 แล้ว ซึ่งวันนี้เรามีภาพสวยๆ ของคันที่ 400 มาให้ชม ไปดูกันว่าสุดแค่ไหน
Chiron คันที่ 400 เป็นรุ่น Super Sport ตัวแรงที่สั่งทำตามสั่งลูกค้าทั้งหมด ตัวถังจัดแบบคาร์บอนไฟเบอร์เปลือยทั้งลำสีเขียวเข้มดูหรู แน่นอนว่าตัวถังแบบนี้ย่อมต้องใช้ฝีมือช่างที่ยอดเยี่ยมกว่าปกติ การลงสีนั้นมากถึง 8 ชั้น ในแต่ละชั้นต้องผ่านการขัดให้มันเงาดุจกระจก ลวดลายการทอเส้นใยคาร์บอนฯ จะต้องเชื่อมต่อกันไหลลื่นไปทั่วคัน ล้อแม๊กนีเซียมน้ำหนักเบาสีดำเงา ฝาครอบเครื่องพ่นเป็นสีดำด้านพร้อมอักษร W16 สีเขียว สีเขียวยังลามไปถึงกระจังหน้าทรงเกือกม้าและดุมล้อโลโก้ EB
ห้องโดยสารมาเป็นทูโทนเน้นวัสดุหนังสีเขียวและสีดำ Beluga Black เสริมดุด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ผิว และพื้นผิวสีดำ Black Anodized หลังคาสั่งออฟชั่น Sky View เพิ่มความโปร่ง
Chiron Super Sport ใช้ขุมพลัง W16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบ 4 ลูก ส่งกำลังด้วยเกียร์คลัทซ์คู่ 7 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงสุด 1,600 แรงม้า ที่ 7,050-7,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 1,600 นิวตันเมตร ที่ 2,250-7,000 รอบ/นาที เร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.4 วินาที, 0-200 ใน 5.8 วินาที, 0-300 ใน 12.1 วินาที และ 0-400 ใน 28.6 วินาที กับท๊อปสปีด 440 กม./ชม.
Chiron ยังเหลืออีก 100 คันสุดท้าย ใครยังไม่มีต้องรีบแล้วแหละ หลังจากหมด 500 คันนี้ ยังเหลืออีก 2 รุ่น ที่จะเป็นตัวปิดฉากตำนานเครื่อง W16 อย่างแท้จริงนั่นคือ W16 Mistral และ Bolide
บทความโดย : Team Admin Bangkoksupercar.com
ข้อมูล : Bugatti