ใช้เวลากว่า 2 ปี จนสมบูรณ์แบบ กับงานสีตัวถังของ Bugatti DIVO คันนี้

15442 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ใช้เวลากว่า 2 ปี จนสมบูรณ์แบบ กับงานสีตัวถังของ Bugatti DIVO คันนี้

นี่คือ Bugatti Divo มูลค่าคันละกว่า 173 ล้านบาท มีจำกัดเพียง 40 ในโลก และนี่น่าจะเป็นหนึ่งคันที่ทำเอาทาง Bugatti คิดหนักมากที่สุด ด้วยระยะเวลาการสร้างผลงานกินเวลาเกือบปีครึ่ง จะเป็นเพราะอะไรมาดูรายละเอียดกัน

Bugatti DIVO คันนี้มีนามว่า ‘Lady Bug’ เป็นงานสั่งทำพิเศษของลูกค้านักสะสมจาก USA ตัวถังเลือกใช้สีพิเศษแบบเมทัลลิก 2 เฉด คือ แดง  'Customer Special Red' ตัดกับสีเทา 'Graphite' ส่วนจุดที่บอกว่าใช้เวลาทำร่วมปีครึ่ง คือบริเวณตัวถังที่มีลวดลายสี่เหลี่ยมเพชรราว 1,600 เม็ด รอบคัน เรียกว่าทำเอาทีมงาน Bugatti แทบจะถอดใจไปเลย พวกเขาใช้โปรแกรม CAD จำลองเพชร 2 มิติ แต่เมื่อนำไปใช้กับตัวถังรถจริง (รถทดสอบ) กลับเจอปัญหามากมายทั้งรูปทรงเพชรบิดเบี้ยวตามมุมโค้งต่างๆ ดูไม่เสมอกัน พลาดแค่มิลลิเมตรเดียวงานก็ต้องถูกเริ่มใหม่หมด จึงมีการปรับแก้งานนับไม่ถ้วนเพื่อให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด  การสร้างเอฟเฟ็กนี้เริ่มจากการพ่นสีแดงทั่วทั้งคัน ต่อด้วยการติดฟิล์มลายเพชรขนาด 20 ฟุต เมื่อเช็คตำแหน่งแล้วว่าไม่มีจุดไหนผิดเพี้ยน ก็จะเริ่มพ้นสีเทา Graphite ทับลงไป แล้วจบด้วยการแกะฟิล์มแต่ละเม็ดออก ก็จะเผยให้เห็นเพชรสีแดงเรียงกันสวยงามนั้นเอง

ห้องโดยสารของ  ‘Lady Bug’ ยังดุดันเหมือนภายนอก ด้วยบรรยากาศสีแดง-ดำ เน้นใช้หนังแท้สลับกับ Alcantara มีคาร์บอนไฟเบอร์ผิวด้านที่แผงคอนโซล และเบาะนั่งแบบ Bucket seat ลวดลายพิเศษเฉพาะ รองรับการขับที่ในความเร็วสูง

Bugatti Divo ใช้เครื่องยนต์แบบ W16 ขนาด 8.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบ 4 ลูก รีดกำลังได้สูงสุด 1,500 แรงม้า ที่ 6,700 รอบ/นาที แรงบิดมหาศาลถึง 1,600 นิวตัน-เมตร มีให้ใช้ตั้งแต่ 2,000-6,000 รอบ/นาที ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.4 วินาที ทำท๊อปสปีดสูงถึง 380 กม./ชม. (ถูกจำกัดไว้) พร้อมส่งกำลังด้วยเกียร์ 7 สปีด คลัทซ์คู่ DSG และใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ All-Wheel Drive

บทความโดย : Team Admin Bangkoksupercar.com
ข้อมูล : Bugatti

 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้