หรูแรง!! Aston Martin Valhalla ไฮบริดซุปเปอร์คาร์วางกลาง V8 ควบม้า 950 ตัว

รถต้นแบบ AM-RB 003 เมื่อปี 2019 เป็นความหวังของคนที่รอคอยแอสตันมาร์ตินแบบเครื่องวางกลาง ในที่สุดเวอร์ชั่นจริงก็เปิดตัวเรียบร้อยในชื่อ Aston Martin Valhalla

Aston Martin Valhalla ซุปเปอร์คาร์ไฮบริดใหม่ล่าสุด มันถูกจัดตำแหน่งขั้นกลางระหว่าง Valkyrie และ Vanquish ที่จะตามออกมาในอนาคต ตัวรถโครงสร้างแบบคาร์บอนไฟเบอร์ น้ำหนักรถเปล่าต่ำกว่า 1,550 กก. งานดีไซน์ด้านหน้ายังได้กระจังหน้าซี่ถี่ที่เราคุ้นเคย ไฟหน้าเมทริกซ์ LED ขนาดใหญ่ ปลายท่อไอเสียคู่แบบออกด้านบน ด้านแอร์โรไดนามิกถ่ายทอดจากรุ่น Valkyrie กันเลย ทั้งการเปิดช่องโล่งเหนือซุ้มล้อหน้า ลิ้นหน้าแบบแอคทีฟส่งกระแสลมผ่านออกช่องบนฝากระโปรงได้ สเกิร์ตข้างช่วยสร้างกระแสลมหมุน Vortex Generator บนหลังคามีช่องดักอากาศส่งตรงระบายความร้อนเครื่องยนต์ ปีกท้ายแอคทีฟ และดิฟฟิวเซอร์แบบหลุมอุโมงค์ขนาดใหญ่ ที่ความเร็ว 240 กม./ชม. ตัวรถสามารถสร้างแรงกดได้ถึง 600 กก. เรียกว่ายึดเกาะระดับเทพ ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ Push rod หลังแบบ Multilink ใช้โช้คสปริงจาก Multimatic ที่ปรับตั้งค่าให้เหมาะกับวิ่งสนามแข่งหรือถนนได้ ล้อหน้าขนาด 20 นิ้ว หลัง 21 นิ้ว แบบ Center lock เบรกคาร์บอน-เซรามิก และหุ้มยาง Michelin สั่งทำเฉพาะพิเศษ

ภายในห้องโดยสารจะมาแนวล้ำแต่เรียบง่ายสไตล์รถแข่ง F1 แป้นเหยียบกับพวงมาลัยปรับตำแหน่งได้ แต่ตัวเบาะนั่งคาร์บอนไฟเบอร์จะยึดตายกับตัวถังรถ แอร์เป็นแบบ Dual Zone  มีระบบ Aston Martin HMI ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ มีหน้าจอสัมผัสส่วนกลางรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

หัวใจหลักของ Valhalla จะใช้เครื่องวางกลาง V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ (จาก AMG GT Black Series) ให้กำลัง 750 แรงม้า ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าอีกสองตัวช่วยเพิ่มพลังอีก 204 แรงม้า รวมสองระบบได้กำลังระดับ 950 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 1,000 นิวตัน-เมตร เร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.5 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 330 กม./ชม. ได้เกียร์ตัวใหม่แบบ 8 สปีด DCT คลัทซ์คู่ เปลี่ยนเกียร์ผ่านแพดเดิ้ลชิฟท์ มีระบบ e-reverse ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเวลาถอยหลัง และ Electronic Limited-Slip Differential (E-Diff) สำหรับในโหมด EV ไฟฟ้า 100% จะใช้ความเร็วสูงสุดที่ 130 กม./ชม. และวิ่งระยะทางจำกัด 15 กม.

Aston Martin Valhalla จะเริ่มส่งมอบรถในไตรมาส 4 ปี 2023 ราคาคาดการณ์น่าจะอยู่ระดับ 700,000 ปอนด์ หรือประมาณ 31 ล้านบาท ยังไม่รวมภาษีนำเข้า 

บทความโดย : Team Admin Bangkoksupercar.com
ข้อมูล : Aston Martin