1883 จำนวนผู้เข้าชม |
ย้อนเวลาไปในเดือน มีนาคม ค.ศ. 1922 Jean Mabille ได้ขับรถแข่ง Bugatti Type 13 บน La Turbie Hill Climb ภูเขาอันเก่าแก่ในฝรั่งเศส สมัยนั้นเต็มไปด้วยหลุมบ่อ ทราย และหิน เขาขับไประยะทาง 6.3 กม. จนคว้าชัยชนะด้วยเวลา 6 นาที 24 วินาที ตอนนี้ครบ 100 ปี พอดีพวกเขาจึงทำ Chiron Pur Sport ตัวพิเศษเป็นการรำลึกถึง
นี่คือ Chiron Pur Sport “Green Rhapsody” สั่งทำพิเศษ โดดเด่นด้วยตัวถังสีเงินสลับสีเขียวที่โชว์เนื้องานคาร์บอนไฟเบอร์อย่างงดงาม ช่องลมรอบคัน ทั้งกระจังหน้า, ช่องลมด้านข้าง และช่องระบายอากาศกันชนท้าย จะเป็นสีเงินให้ดูหรูกว่าปกติ ล้อก็เป็นสีเขียววัสดุแมกนีเซียมลดน้ำหนักจากล้อปกติไปอีก 16 กก. และบนปีกท้ายขนาดใหญ่ยังลงอักษร Green Rhapsody ไว้ด้วย
ห้องโดยสารมีรายละเอียดที่ไม่เหมือนคันไหน โดยรอบจะใช้สีแนวเอิร์ธโทน น้ำตาลเข้มสลับสีขาวสว่าง เพิ่มความร้อนแรงเล็กน้อยด้วยสีแดงบนพวงมาลัยสลับคาร์บอนฯ คล้ายกับสไตล์ Veyron Black Bess ที่หัวเกียร์ก็เลือกใช้ไม้เป็นวัสดุช่วยให้ดูนุ่มนวลอบอุ่นอีกด้วย และพิเศษคือแผงประตู 2 ฝั่ง เพิ่มงานวาดด้วยมือสุดประณีต โดยฝั่งขวาคนนั่งจะเห็นรถ F1 วิ่งผ่านฉากหลังเป็นโรงงาน Bugatti เมืองมอลไซม์ ฝรั่งเศส ส่วนฝั่งผู้ขับเป็นรถ F1 เช่นกัน แต่วิ่งผ่านทางเข้าปราสาท Saint-Jean ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของ Bugatti
Chiron Pur Sport ถือเป็นเวอร์ชั่น Lightweight การขับขี่ความคุมจะเร้าใจและแม่นยำกว่าปกติ ตัวรถถูกรีดน้ำหนักลงไปอีก 50 กก. อัพเกรดแอร์โรไดนามิกใหม่รอบคัน ช่วงล่างจะแข็งกว่าเดิมด้านหน้า 65% และหลัง 33% เครื่องยนต์แบบ W16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบ 4 ตัว เกียร์แบบคลัทซ์คู่ 7 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงสุด 1,500 แรงม้า ที่ 6,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 1,600 นิวตันเมตร ที่ 2,000-6,000 รอบ/นาที เร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.3 วินาที, 0-200 ใน 5.5 วินาที, 0-300 ใน 12.4 วินาที กับท๊อปสปีด 350 กม./ชม.
นี่เป็น 1 ใน 60 ของ Chiron Pur Sport ที่มีสไตล์ดูดีมาก ค่าตัวของ Green Rhapsody ไม่มีการเปิดเผยออกมา ต้องเดาเอาแล้วว่าจะเกินราคาเริ่มต้น 3 ล้านยูโร หรือประมาณ 111 ล้านบาท ไปแค่ไหน
บทความโดย : Team Admin Bangkoksupercar.com
ข้อมูล : Bugatti