ลาก่อนนะ... Nissan GT-R R35 ปิดตำนาน 18 ปี พร้อมรถคันสุดท้ายจากโรงงานญี่ปุ่น

54 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ลาก่อนนะ... Nissan GT-R R35 ปิดตำนาน 18 ปี พร้อมรถคันสุดท้ายจากโรงงานญี่ปุ่น

Nissan GT-R R35 โลดแล่นอยู่ในสายการผลิตมาอย่างยาวนานถึง 18 ปี ผลิตและจำหน่ายไปแล้วประมาณ 48,000 คัน ในที่สุดก็มาถึงบทสุดท้ายในปี 2025 กับรถคันสุดท้ายที่ผลิตออกจากโรงงาน Tochigi ประเทศญี่ปุ่น เป็นรุ่น Premium edition T-Spec สี Midnight Purple ปิดฉากยุคทองของหนึ่งในซุปเปอร์คาร์ญี่ปุ่นที่ทั่วโลกให้การยอมรับ

ตำนานของ R35 เริ่มขึ้นในปี 2001 ด้วยรถต้นแบบ GT-R Concept ที่ Tokyo Motor Show ก่อนจะต่อยอดเป็น GT-R Proto ในปี 2005 และสุดท้ายคือ GT-R R35 โฉมจริงในปี 2007 ยุคนั้นนำโดย CEO คาร์ลอส กอส์น ที่มีเป้าหมายที่จะคืนชีพ GT-R และยกระดับตัวรถให้ต่อกรกับ Porsche 911 Turbo รวมถึง Ferrari และ Lamborghini ได้อย่างสบาย และมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า

ในปี 2007 มันประเดิมวิ่งรอบสนาม Nürburgring ทำเวลาไป  7 นาที 38 วินาที และลดเหลือ 7 นาที 8.679 วินาที ในรุ่น GT-R NISMO ปี 2013 ทำเอา Porsche ต้องรีบไปพัฒนารถรุ่นใหม่มาท้าชน

วงการมอเตอร์สปอร์ตตั้งแต่ลงแข่ง Super GT ในปี 2008 R35 ก็กวาดแชมป์มาเพียบ เช่น GT500 ห้าครั้ง, GT300 สามครั้ง, Super Taikyu Japanese endurance racing series ห้าครั้ง, รวมถึงการคว้าแชมป์ Bathurst 12 Hour ปี 2015 และสถิติโลกดริฟต์เร็วที่สุดในโลก ณ สนามบินนานาชาติฟูไจราห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยความเร็ว 304.96 กม./ชม. ในปี 2016  

R35 ทุกรุ่นมากับขุมพลัง VR38DETT V6 ทวินเทอร์โบ 3.8 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด คลัตช์คู่ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ATTESA E-TS เครื่องยนต์ถูกประกอบด้วยมือโดยช่างผู้เชี่ยวชาญระดับ "Takumi" เพียง 9 คนเท่านั้น รุ่นแรกที่เปิดตัวให้กำลังสูงสุด 480 แรงม้า ต่อมาเพิ่มเป็น 570 แรงม้า ตั้งแต่รุ่นปี 2017 เป็นต้นไป และจบที่ 600 แรงม้า ใน GT-R NISMO

GT-R กลายเป็นของสะสมด้วยรุ่นพิเศษที่ออกมา เช่น Spec V (2009), 45th Anniversary (2011), GT-R NISMO (2013), และ GT-R50 by Italdesign ปี 2018 ผลิตจำกัดแค่ 50 คันในโลก ราคากว่า 1 ล้านดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทยราวๆ 32 ล้านบาท ยังไม่รวมภาษีนำเข้า

และในปี 2024 นิสสันได้เปิดตัวรุ่นสุดท้ายของ R35 พร้อมคืนชีพสีในตำนานอย่าง Bayside Blue และ Midnight Purple

แม้ R35 จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ชื่อ GT-R นั้นยังคงอยู่ตลอดไป อนาคตรุ่นใหม่จะกลับมาแน่นอนเราคงต้องรอลุ้นว่ารุ่นถัดไปจะโหดแค่ไหนมาพร้อมขุมพลังแบบใด หวังว่าการกลับมาจะสั่นสะเทือนวงการซุปเปอร์คาร์อีกครั้ง  

บทความโดย : Team Admin Bangkoksupercar.com
ข้อมูล : Nissan  

 

 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้