บทความทั้งหมด

Ferrari SF90 ใช้บอดี้แบบคาร์บอนไฟเบอร์ น้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 1,570 กิโลกรัม การกระจายน้ำหนัก หน้า 45% หลัง 55% ด้านแอร์โรไดนามิค สามารถสร้างแรงกดมหาศาลร่วม 380 กิโลกรัม ที่ความเร็ว 250 กม./ชม. บริเวณกันชนหน้ามีช่องดักลม ซ้าย-ขวา ขนาดใหญ่

ตัวถังใหม่แบบ Liquid Carbon เป็นการเคลือบใสพิเศษไม่พ่นสีทับ เน้นโชว์เนื้องานคาร์บอนไฟเบอร์แบบเต็มๆ ช่วยเพิ่มดุดันอย่างมาก เมื่อมองผ่านๆ มันแทบไม่ต่างจากรุ่นปี 2017 แต่ช่องลมต่างๆ ถูกขยายใหญ่ขึ้น เพิ่มการไหลเวียนของอากาศอีก 50% Diffuser

V12 Speedster ถูกสร้างขึ้นมาพิเศษโดยแผนกพิเศษ Q ของ Aston Martin  เป็นการรวมโครงสร้างอลูมิเนียมของรุ่น DBS Superleggera และ Vantage เข้าไว้ด้วยกัน กับตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ น้ำหนักรถเปล่า จะอยู่ราว 800 กิโลกรัม เท่านั้น หลังคาถูกตัดออกไป

Pininfarina บริษัทออกแบบรถชั้นนำจากอิตาลีนำเสนอรถ Hypercar EV ระดับสุดยอดของพวกเขา ในชื่อ Pininfarina Battista โดยชื่อนี้ตั้งให้เพื่อเป็นเกียรติแก่นักออกแบบ Battista Farina หรือผู้ก่อตั้งบริษัท Pininfarina S.p.A นั่นเอง

Gemera ใช้แซสซีส์คาร์บอนไฟเบอร์ Monocoque มีอลูมิเนียมเสริมแกร่ง ตามจุดยึดต่างๆ น้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 1,715 กิโลกรัม มีพื้นที่เก็บสัมภาระทั้งด้านหน้า และหลังรวม 200 ลิตร โดดเด่นด้วยงานดีไซน์ตามหลักแอร์โรไดนามิกรอบคัน กล้องมองภาพ แทนที่กระจกมองข้างแบบเดิม ประตูยังคงเอกลักษณ์แบบ Dihedral synchro-helix

ประวัติความเป็นมาของปอร์เช่เริ่มก่อตั้งขึ้นโดย Dr. Ferdinand Porsche เขาเกิดเมื่อ 3 กันยายน ค.ศ. 1875 เป็นวิศวกรยานยนต์ระดับหัวกะทิ เคยร่วมงานกับบริษัทรถชื่อดังอย่าง Mercedes-Benz ,Volkswagen เขามีชื่อเสียงมากจากการคิดค้นเชื้อเพลิงแบบแก๊สโซลีนเป็นครั้งแรก รวมถึงรถ Hybrid ที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน เขาก็คือผู้คิดค้นคนแรกเมื่อปี 1990 ในชื่อว่า Lohner-Porsche เขาเป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจกับงานของตนเองเพื่อสร้างสรรค์คิดค้นสิ่งใหม่เพื่อให้รถสปอร์ตของเขาเป็นไปตามความต้องการ โดยมี Ferry Porsche บุตรชายของเขา รับบทบาทปฏิบัติงานร่วมกันกับเขาตลอดเวลา  

ตัวรถมีงานดีไซน์ที่ดุดันกว่าเดิม ตัวถังถูกลดน้ำหนักลง 50 กิโลกรัม ปรับปรุงด้านแอร์โรไดนามิกรอบคัน เริ่มจากชุดกันชนหน้าใหม่ ถูกขยายช่องลมให้ใหญ่ขึ้น เสริมด้วยลิ้นด้านล่างเพิ่ม Downforce ด้านท้าย Diffuser ยกชุดใหม่ ปลายท่อไอเสียผลิตด้วย 3D print สปอยเลอร์ท้ายขนาดใหญ่ แบบยึดตายตัว ช่วงล่างมีการเซทค่าสปริงให้ Firm ขึ้น ทางด้านหน้า 65% และหลัง 33%

ถ้า RS7 ของคุณ ที่มีกำลังกว่า 600 แรงม้า ยังไม่สะใจพอ Audi RS7-R แบบ Limited Editions จากสำนักแต่ง ABT Sportsline อาจสนองความต้องการของคุณได้

รูปลักษณ์ภายนอกนั้นมาในแบบล้ำยุค ออกแบบตามหลักแอร์โรไดนามิกรอบคัน ไล่ตั้งแต่กันชนหน้า สเกิร์ตข้าง ช่องลมตามจุดต่างๆ เพื่อให้อากาศไหลผ่านได้ลื่นที่สุด  ตัวรถมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ ที่ 0.279 ต่ำกว่า ทั้ง Bugatti Chiron, Koenigsegg Agera และ Hennessy Venom F5

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้