SUPERCAR UPDATE ALL CONTENT


Magazine Online สำหรับแฟนคลับซุปเปอร์คาร์ของเมืองไทย
ก้าวสู่ปีที่ 14 ของ BANGKOKSUPERCAR.COM ที่เรายังคงตั้งใจมุ่งมั่นในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ สำหรับผู้ที่รักและชื่นชอบเกี่ยวกับรถซุปเปอร์คาร์ เราได้รวยรวมประวัติและตำนานอันทรงคุณค่าของรถซุปเปอร์คาร์ยี่ห้อต่างๆไว้ และข่าวอัพเดทรถซุปเปอร์คาร์ พร้อมเทคโนโลยี และเทรนด์ใหม่ๆ มาให้ท่านได้รู้ก่อนใค



ก่อนอื่นทุกคนที่ซื้อจะต้องมี 812 Superfast 1 คัน + Ferrari ที่สั่งตรงจากโรงงานหรือ ผ่านดีลเลอร์ อีก 5 คันครับ พวกมือ 2 หรือรถที่โชว์รูมสั่งมาไม่นับครับ

Jesko Absolut คันที่เราเห็นนี้จะเป็นรถทดสอบอย่างเป็นทางการของโรงงาน และจะเป็นผู้นำโครงการ Jesko Absolut ตั้งแต่ต้นจนจบไปถึงช่วงการผลิตจริง ตัวถังดุดันด้วยสีเทา Graphite Grey ตัดด้วยเส้นสีส้ม Tang Orange ตัวรถสร้างขึ้นเพื่อทำความเร็วสูงโดยเฉพาะ

เฟอร์รารี่คว้ารางวัล Red Dot Awards ไปทั้งหมด 23 รางวัล ไม่มีผู้ผลิตรถยนต์รายใดเข้าใกล้ความสำเร็จที่แบบนี้มาก่อน และเฟอร์รารีเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกในประวัติศาสตร์ของที่คว้ารางวัลสูงสุด “Red Dot: Best of the Best” หกครั้งติดต่อกัน

Ferrari 296 GTS ถือเป็นรถแบบ Spider คันแรกของค่ายที่มากับขุมพลัง V6 เทอร์โบ บวกมอเตอร์ไฟฟ้า หลังคาแบบพับไฟฟ้า RHT (Retractable Hard Top) ใช้เวลาเปิด-ปิด 14 วินาที ใช้งานได้ที่ความเร็วสูงสุด 45 กม./ชม.งานดีไซน์โดยรอบไม่ต่างจาก 296 GTB มาก มีเพียงบริเวณหลังคาที่ปรับดีไซน์ใหม่ให้แอร์โรไดนามิกยอดเยี่ยมไม่ต่างจากตัว Coupe

มีเพียงระยะฐานล้อที่เท่าเดิม 2,722 มม. งานดีไซน์ปรับใหม่จากรุ่น S1 ก่อนหน้าให้ดูล้ำขึ้น ปรับปรุงอากาศพลศาสตร์รอบคัน และพวกช่องระบายความร้อนต่างๆ ช่วงล่างแบบ Double Wishbone สี่ล้อ ชุดเพลาใช้ทำจากฟอร์จอลูมิเนียมช่วยลดน้ำหนัก

การทดสอบนี้ใช้เวลาสองสัปดาห์ เริ่มขึ้นที่สนาม Sottozero Center ของ Pirelli ใกล้กับ Arctic Circle ในสวีเดน ด้วยอุณหภูมิในเวลากลางวันที่ร้อนผิดปกติต่ำสุด -15°C และไม่คงที่ อาจส่งผลต่อสภาพพื้นผิวหิมะที่ไม่ราบรื่นได้

ถึงแม้แบรนด์จะดูน้องใหม่ แต่รถคันนี้จะได้รับความร่วมมือจาก 2 บริษัทชั้นนำอย่าง Williams Advanced Engineering ซึ่งคลุกคลีอยู่ในวงการรถแข่ง F1 และ Italdesign

นี่คือชิ้นงานคุณภาพจาก Amalgam Collection ที่คุณอาจต้องจ่ายหนักหน่อยแต่รับรองว่าคุณภาพที่ได้นั้นสุดจริง พวงมาลัยจำลอง Ferrari F1-75 มาในขนาด 1:1 กว้างกว่า 28 ซม./11 นิ้ว ทำด้วยวัสดุที่ดีที่สุด น้ำหนัก รวมถึงฟีลลิ่งการจับไม่ต่างจากของจริง

แต่ตัวรถนั้นยาวขึ้น 6.1 ซม. จาก Huracan EVO ด้านหน้ารถได้กันชนหน้าใหม่ทรงตัว Y มีช่องลมเฉพาะส่งเข้าไปลดอุณหภูมิเบรก ฝากระโปรงหน้าคาร์บอนฯ ได้เบรกคาร์บอน-เซรามิคใส่มาเป็นมาตรฐาน

Monza SP1 ตัวถังนั้นทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคันอยู่แล้ว ลูกค้าเกือบทั้งหมดก็จะเลือกสีที่ชอบทับไป แต่คันสุดท้ายนี้พิเศษหน่อยเน้นโหดๆ ด้วยตัวถัง Full Carbon เปลือยทั้งคัน

Super Sport คันแรกนี้ได้ผ่านโปรแกรมปรับแต่งพิเศษ Bugatti Sur Mesure โดย Sur Mesure เป็นภาษาฝรั่งเศส ถ้าแปลเป็นอังกฤษก็คือ Tailored ว่าง่ายๆ ก็เหมือนแผนกพิเศษ Ad Personam ของลัมโบร์กินี หรือ Tailor Made ของเฟอร์รารี่ นั่นแหละที่เราสามารถตกแต่งรถเราได้พิเศษตามต้องการ

ดีไซน์ภายนอกถือว่าหล่อสู้พี่ๆ แบรนด์อื่นได้เลย ช่องลมตามจุดต่างๆ ดึงกลิ่นอายมาจาก Emira และ Evija เพื่ออากาศพลศาสตร์อันยอดเยี่ยม และเป็นครั้งแรกของรถขายจริงที่ใส่เซ็นเซอร์ LiDAR ซ่อนเนียนแบบ Pop up  ติดอยู่ 4 จุดด้วยกัน

“Green Rhapsody” สั่งทำพิเศษ โดดเด่นด้วยตัวถังสีเงินสลับสีเขียวที่โชว์เนื้องานคาร์บอนไฟเบอร์อย่างงดงาม ช่องลมรอบคัน ทั้งกระจังหน้า, ช่องลมด้านข้าง และช่องระบายอากาศกันชนท้าย จะเป็นสีเงินให้ดูหรู

ดีไซน์ใหม่ดูหรูพรีเมี่ยมด้วยขวดสีดำเงา กับลายหกเหลี่ยมเอกลักษณ์ของค่ายกระทิงดุ พร้อมประทับตรา Lamborghini และ 24Bottles ให้ดูพิเศษกว่าใคร ผลิตภัณฑ์มีมาให้เลือก 2 แบบ

Carbon Veil ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ดีไซน์เฉียบคมหักมุมซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเรือยอชท์ 118 WallyPower โดยกรรมวิธีของมันเป็นแผ่นคาร์บอนฯ ลายขนานกันตลอดแนว

ตัวถังภายนอกเน้นมาดครึมด้วยสีเทาเมทัลลิกเข้มชื่อว่า Cypress ซึ่งสีนี้เป็นสีเปิดตัวของ Continental GT โฉมแรกในปี 2003 มาแล้ว ต่อด้วยใส่สเปค Blackline

4810 คือความสูง (เมตร) ของเขา Mont Blanc ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดและเป็นสัญลักษณ์มากที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนระหว่างอิตาลีและฝรั่งเศส เหมือนสะพานที่เชื่อมกันระหว่าง Istituto Europeo di Design (IED) กับ Alpine

สร้างโดย Cosworth ลากรอบได้สูงสุด 11,000 รอบ/นาที กำลังมากถึง 1,000 แรงม้า (BHP) นอกจากความแรงกระชากวิญญาณแล้ว ซุ่มเสียงสุดโหดของมันเป็นสิ่งที่แฟนๆ ทุกคนใฝ่หา เหมือนได้ย้อนอดีตสมัย F1 ยังใช้เครื่องยนต์ V12 

ลี่ยนหมดทั้งโลโก้เป็นของ Mansory ตะแกรงกระจังหน้าใหม่ ช่องลมด้านล่างแบ่งส่วนชัดเจน และเพิ่มช่องลมสำหรับสร้างม่านอากาศไหลออกข้างรถ ฝากระโปรงหน้าคาร์บอนทั้งชิ้นเสริมช่องระบายความร้อน

Senna LM เป็นรุ่นพิเศษที่มีแค่ 20 คัน ในโลก ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากรถแข่งในตำนาน McLaren F1 LM ปี 1995 ตัวรถมีจุดที่แตกต่างจาก Senna ปกติ ตั้งแต่ตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์มากับสีส้ม McLaren Orange เหนือซุ้มล้อหน้าเพิ่มช่องไหลเวียนอากาศ บานประตูจากเดิมที่มีช่องกระจกก็ถูกปิดทึบ

ตั้งแต่การขยาย Track ล้อกว้างขึ้น 40 มม. เพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนด้วยกระจังที่ใหญ่ขึ้น 25% ทำงานร่วมกับช่องลมขนาดใหญ่บนฝากระโปรงหน้าชิ้นใหม่ ที่ข้างรถก็ได้ช่องอากาศไหลผ่านขนาดใหญ่ ระบุตรา V12 ไว้ชัดเจน

ตัวถังภายนอกมีจุดสังเกตคือจะไม่มีไฟไซเรนบนหลังคาแบบที่ผ่านมา เนื่องด้วยต้องการแอร์โรไดนามิกที่ดีขึ้น ไฟสัญญาณถูกย้ายไปซ่อนส่วนบนกระจกบังลมหน้า ส่วนไฟทางด้านหลังก็ฝังป็นส่วนหนึ่งกับสปอยเลอร์ไปเลย

Nissan e-4ORCE Ramen Counter project ถาดเสิร์ฟราเมนพลังไฟฟ้า ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวที่แยกทำงานกัน จะเห็นว่าถาดเสิร์ฟราเมนวิ่งด้วยความเร็วพอสมควร แต่สังเกตไหมตอนเบรกไม่มีอาหารหกออกมาสักแอะ

เป็นรถแบบที่นั่งเดี่ยวไร้หลังคา รูปทรงจะมีความเรียบแบนกว่าเวอร์ชั่น Coupe และรุ่น SV กระจังหน้าเพิ่มเติมไฟ DRL ทรงกลมดูคลาสสิค นอกห้องโดยสารกลางรถติดตั้งโปรเจคเตอร์ฉายภาพโฮโลแกรมเป็นระบบ Ai คอยช่วยเหลือผู้ขับ และบั้นท้ายเสริมครีบยาวช่วยเรื่องแอร์โรไดนามิก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้