บทความ supercar

Bugatti Bolide เป็นไฮเปอร์คาร์ที่เอาไว้ขับบนสนามแข่งโดยเฉพาะ โครงสร้างตัวถังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด น้ำหนักรถเปล่าเพียงแค่ 1,240 กก. ตัวรถสูงเพียง 995 มม. เท่ากับรถแข่ง Bugatti TYPE 35 ในยุค 1920 เป๊ะๆ

สปอยเลอร์หลังคา, สปอยเลอร์ฝากระโปรงท้าย และดิฟฟิวเซอร์ท้ายรับกับท่อไอเสียสแตนเลสใหม่ ที่มีระบบควบคุมวาล์วให้เสียงเร้าใจกว่าของเดิม ปลายท่อขนาด 4x100 มม. เลือกเป็นคาร์บอนฯ หรือแบบเคลือบเซรามิกได้ ลวดลายสติ๊กเกอร์คาดตัวถังสามารถสั่งได้

Chiron Super Sport 300+  ถือเป็นตัวแรงที่สุดจากบูกัตติ หลายคนยังสงสัยว่ามันเหมือนกับ Chiron Super Sport รึเปล่า?? ใช่มันเหมือนกัน แต่พิเศษกว่าที่งานตัวถังทั้งลำเป็นแบบ Exposed carbon สีดำ Jet Black ตราบูกัตติบนกระจังหน้าทำจากเงินแท้ถูกเคลือบเป็นสีดำ พร้อมพาดเส้นสีส้ม Jet Orange

อย่างคันในรูปจะเป็น RR Dawn Silver Bullet รุ่นพิเศษ ที่มี 50 คัน ในโลก ก็นำมาติดตั้งชุด Softkit นี้ ชิ้นงานจะทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ลวดลายพิเศษทั้งหมด ตั้งแต่ โครงกระจังหน้า, ฝากระโปรงหน้าครอบคลุมไปถึงเสากระจกหน้า, สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตหน้าหลัง, สเกิร์ตข้าง, กรอบแผงชุดไฟ DRL หน้ารถ

Agera S ไฮเปอร์คาร์สุดหายากคันนี้ ผ่านการวิ่งมาเพียง 3,323 กม. ถูกเซ็คสภาพเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมาเรียบร้อยโดยทางโคนิกเซกก์ฮ่องกง ตัวถังภายนอกใหม่กริ๊บไร้ร่องรอยเป็นแบบ Exposed carbon เห็นลายคาร์บอนสีเขียวทั้งคัน

นี่แหละ Bugatti สำหรับชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง!! Heated Razor Bugatti Special Edition ดีไซน์ตัวด้ามถูกออกแบบมาให้กันน้ำ วัสดุทำจากอลูมิเนียม-สังกะสีเกรดพรีเมียม เลือกใช้สีน้ำเงิน Bugatti Agile Bleu แบบเดียวกับรถ Chiron Pur Sport

Rayo ใช้พื้นฐานจาก Huracan LP 610-4 งานตัวถังถูกร่างดีไซน์ใหม่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด ระยะเวลาในการสร้างจะอยู่ราว 6 เดือน ถึง 1 ปี ด้านหน้าตัวรถดูลาดยาวกว่าปกติ แก้มกันชนหน้ามีช่องลมสร้างม่านอากาศช่วยลดแรงต้าน โคมไฟหน้าเพิ่มครีบสีดำคล้ายขนตาแรงบันดาลใจจากรุ่น Miura ด้านข้างตัวรถก็มีช่องลมขนาดใหญ่กว่าเดิม บั้นท้ายถูกขยายให้ยาวขึ้นเป็นสไตล์ Longtail

ทั้งหมดเราสามารถเลือกได้เลยจะเอาโชว์ลายคาร์บอนฯ หรือทับเป็นสีเดียวกับตัวรถก็ได้ ล้อก็มีให้เลือกหลายสไตล์ หลากเฉดสี นอกจากนี้ก็ตามสไตล์ Novitec คือเปลี่ยนสปริงใหม่สวมเข้ากับโช๊คเดิมโรงงาน ถ้าอยากให้รถปรับระดับความสูง-ต่ำได้ ก็มีชุดควบคุม CAN-TRONIC ไฮดรอลิคให้ตัวรถหมอบลงอีก 40 มม.

รถพลังงานไฟฟ้าคันแรกของตระกูล Maybach ดีไซน์ภายนอกเน้นความหรูด้วยตัวถังสีทูโทน อย่างคันในรูปจะเป็นสีแดงเมทัลลิก Zircon Red ตัดกับสีดำ Obsidian Black และข้างตัวรถยังมีงานฝีมือลากเส้น pinstripe ด้วยพู่กันเหมือนกับพวก Rolls-Royce อีกด้วย ทางด้านหน้าอลังกาลด้วยกระจังแนวตั้งจำลองขนาดใหญ่

Lotus Type 62-2 ถูกสร้างบนพื้นฐาน Lotus Evora โดยเปลือกตัวถังถูกสร้างพิเศษใหม่เป็นงานคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักต่ำกว่า 1,000 กก. Type 62-2 แบ่งระดับออกมาด้วยกัน 3 รุ่น คือ Type 62-2 ตัว Classic 430 แรงม้า, Type 62-2 Gold Leaf คันสีขาว-แดง 500 แรงม้า และรุ่นท๊อปล่าสุด

ด้านบนหลังคาแปลกใหม่ด้วยโครงสร้างแบบโครงกระดูก "exoskeleton" และติดโพลีคาร์บอเนตใสนอกจากจะช่วยให้ห้องโดยสารดูโปร่งสบายแล้ว มันยังเป็นประตูหนีภัยที่ถอดออกได้ เป็นไปตามข้อกำหนดของ FIA บางจุดตัวรถ เช่น สปลิตเตอร์ด้านหน้า, สเกิร์ตข้าง และดิฟฟิวเซอร์ จะทำจากพลาสติกเสริมแรงด้วยเส้นใยธรรมชาติ

Audi grandsphere มีขนาดมิติตัวรถ ยาว 5.35 เมตร กว้าง 2 เมตร สูง 1.39 เมตร และระยะฐานล้อ 3.19 เมตร ถือว่ายาวพอๆ กับ RR Ghost และกว้างเกือบเท่า RR Phantom นั่นบ่งบอกว่านี่จะเป็นตัวหรูขั้นสุดแน่นอน มันถูกสร้างบนแพลตฟอร์มใหม่เรียกว่า Premium Platform Electric หรือ PPE

นี่คือรถจำลอง McLaren MP4-26 รถสูตรหนึ่งที่ใช้ในการแข่งขันฤดูกาล 2011 ขับโดย Lewis Hamilton แชมป์โลก 7 สมัย และ Jenson Button รถจำลองนี้ถูกสร้างมาแทบไม่ต่างจากของจริง ต่างตรงที่ไม่มีเครื่องยนต์ช่วยให้คุณขนย้ายได้สะดวก

ถ้าคุณต้องการให้เครื่อง V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ทรงพลังยิ่งขึ้นคุณต้องจ่ายเงิน 4,200 ยูโร ราว 161,000 บาท ทาง Wheesandmore จะติดตั้งกล่องจูน Tec-tronic แบบ Plug&Play เข้าไป จากเดิมมีม้า 1,000 ตัว

โชว์รูม Bugatti Singapore ตั้งอยู่บนถนน 45 Leng Kee กำกับดูแลโดยตัวแทนจำหน่ายอย่าง Wearnes Automotive ไม่ใช่แค่บูกัตติอย่างเดียว พวกเขายังมีแบรนด์เทพๆ อย่างเช่น Rimac, Aston Martin, Bentley, Jaguar, หรือ Pininfarina

SPOFEC จับ Rolls-Royce Ghost ใหม่ มาแต่งหน้าทาปากใหม่แฝงความสปอร์ตเพิ่มขึ้น โดยยังหรูหราไม่เสียความเป็น RR รูปลักษณ์ภายนอก มีอยู่ 4 จุดที่เปลี่ยน คือ กันชนหน้า, แผงซุ้มล้อหน้า, สเกิร์ตข้าง, กันชนท้าย และสปอยเลอร์หลังขนาดเล็ก ทุกชิ้นจะเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ที่เลือกลงสีทับได้

ขายหมดเกลี้ยงเรียบร้อย กับไฮเปอร์คาร์สุดแรงจากแดนเท็กซัส Hennnessy Venom F5 ที่สร้างมาเพียง 25 คันในโลก พร้อมกับค่าตัวระดับ 2.1 ล้าน เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 68 ล้านบาท ยังไม่รวมภาษีนำเข้า ล่าสุดกับงาน Monterey Car Week ที่จบไปไม่นาน ก็ได้นำรถคันที่ 3 ไปโชว์ให้แฟนๆ ได้ชื่นชมด้วย

Aventador S Roadster Korean Special Series สร้างมาเพื่อชาวเกาหลีใจรักกระทิงดุโดยเฉพาะ พัฒนาร่วมกันโดย Automobili Lamborghini และ Lamborghini Seoul ตัวรถจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ คันตัวถังสีเขียว Green Ocno เป็นสัญลักษณ์ของ 'ความรู้สึกอบอุ่นแบบเกาหลี' และอีกคันสีน้ำเงิน  Blue Emera

NSX Type S ผลิตขึ้นที่ Performance Manufacturing Center ใน Marysville รัฐโอไฮโอ หน้าตาดูเกรี้ยวกราดขึ้นจากรุ่นปกติ ด้วยโคมไฟหน้ารมดำ กันชนหน้าดีไซน์ใหม่เพิ่มการระบายความร้อนได้ดีขึ้น หลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ช่วยลดจุดศูนย์ถ่วง กันชนท้ายก็ปรับทรงช่องอากาศด้านข้างใหม่ ได้ดิฟฟิวเซอร์ใหม่ขนาดใหญ่ขึ้น

Aston Martin Valkyrie Spider นี่คือไฮเปอร์คาร์ที่สร้างมาให้เข้าใกล้รถ Formula One มากที่สุด และวิ่งใช้งานบนถนนปกติได้ ในรุ่น Spider จะใช้หลังคาแบบบานพับคู่ถอดด้วยมือรูปทรงเหมือนปีกนกขนาดเล็ก

Countach LPI 800-4 เปิดตัวพร้อมรหัสใหม่ LPI (Longitudinale Posteriore Ibrido) บ่งบอกว่ามากับเทคโนโลยีไฮบริด ตัวรถยังคงใช้พื้นฐานจากรุ่น Aventador โครงสร้างแซสซีส์โมโนค็อกคาร์บอนไฟเบอร์พร้อมเฟรมอะลูมิเนียมเสริมความแข็งแรง ส่วนเปลือกบอดี้เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด

นี่คือ Mulsanne Grand Limousine รถรุ่นนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2015 โดยแผนก Mulliner ไม่เคยใช้งาน และจดทะเบียนเรียกว่ากำลังหาเจ้าของอยู่ ใช้ขุมพลังเป็นแบบ V8 ขนาด 6.75 ลิตร เทอร์โบคู่ 512 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,020 นิวตัน-เมตร มันยาวขึ้นจากรุ่นปกติ 1 เมตร

Huayra BC ถือเป็นไฮเปอร์คาร์ตัวเทพที่ได้รับการปรับแต่งมาสุดพอสมควรแล้ว แต่การมาของแพ็คเกจ Pacchetto Tempesta จะช่วยให้ Huayra BC ดีขึ้นไปอีก เริ่มจากการได้สปลิตเตอร์หน้าใหม่ เหนือเครื่องยนต์ติดตั้ง Scoop ดักอากาศระบายความร้อนขนาดใหญ่อีก 2 ช่อง ส่วนบั้นท้ายมากับปีกท้ายทรงใหม่

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้